ดูไบ
ดูไบ إمارة دبيّ | |
---|---|
ดูไบ | |
ที่ตั้งของดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | |
พิกัด: 25°15′00″N 55°18′00″E / 25.25000°N 55.30000°E | |
ประเทศ | สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
รัฐ | ดูไบ |
ผู้ก่อตั้ง | มักตูม บิน บาตี บิน ซูฮาล (ค.ศ. 1833) |
การแบ่งเขตการปกครอง |
|
การปกครอง | |
• ประเภท | ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ[1] |
• อธิบดีเทศบาลนครดูไบ | Dawoud Al Hajri |
พื้นที่[A] | |
• มหานคร | 4,114 ตร.กม. (1,588 ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 1,287.4 ตร.กม. (497.1 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2008)[2] | |
• มหานคร | 2,262,000 คน |
• ความหนาแน่น | 408.18 คน/ตร.กม. (1,057.2 คน/ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 2,262,000 คน |
• ความหนาแน่นรวมปริมณฑล | 1,800 คน/ตร.กม. (4,600 คน/ตร.ไมล์) |
• Nationality (2005)[3] | 26.1% อาหรับ (17% เป็น ชาวเอมิราตี) 42.3% อินเดีย 13.3% ปากีสถาน 7.5% บังกลาเทศ 2.5% ฟิลิปปินส์ 1.5% ศรีลังกา 0.9% ยุโรป 0.3% อเมริกัน 5.7% อื่น ๆ |
เขตเวลา | UTC+4 (เวลามาตรฐานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) |
เว็บไซต์ | Dubai Emirate Dubai Municipality |
ดูไบ (อาหรับ: دبيّ, Dubayy; อังกฤษ: Dubai) เป็นนครใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เมืองดูไบถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก และมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองสูงมาก
ชื่อ
[แก้]ในช่วงทศวรรษที่ 1820 ดูไบถูกกล่าวถึงในชื่อ อัลวาเซิล ตามนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ อย่างไรก็ตาม มีบางบันทึกที่อ้างถึงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือชื่อของรัฐที่ผู้คนท้องถิ่นบอกต่อ ๆ กันมาตามคติชน ที่มาของคำว่าดูไบ ยังมีการถกเถียงกันอยู่ บ้างก็ว่ามาจากภาษาเปอร์เซีย แต่บ้างก็เชื่อว่ามาจากภาษาอาหรับที่เป็นรากศัพท์ของคำ ตามที่เฟเดล แฮนด์ฮัล นักวิจัยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คำว่า ดูไบ (Dubai) น่าจะมาจากคำว่า Daba (ดาบา) (ดัดแปลงมาจากคำว่า Yadub) ซึ่งมีความหมายว่าการคืบคลาน ซึ่งอาจมาจากการไหลของน้ำในคลองดูไบ (Dubai Creek) ที่อยู่ภายในแผ่นดิน
ประวัติศาสตร์
[แก้]ในปี ค.ศ. 1833 ชนเผ่าบานียาส ประมาณ 800 คน นำโดยตระกูลมักตูม ซึ่งยังเป็นผู้ปกครองรัฐอยู่ในปัจจุบัน ได้อพยพมาตั้งหลักแหล่งบริเวณปากอ่าว ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นท่าเรือที่อุดมสมบูรณ์จึง ทำให้ดูไบกลายเป็นศูนย์กลางของการค้าทางทะเล รวมทั้งการทำประมงและการทำฟาร์มไข่มุก หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 20 ดูไบก็กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและการส่งออกที่สำคัญ โดยมีซุก (ชื่อเรียกของตลาดบริเวณตะวันออกกลาง) ขนาดใหญ่ที่สุดตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่าเดียรา (Deira)
การค้าขายในดูไบประสบความสำเร็จมาก สามารถดึงดูดให้พ่อค้าชาวอิหร่าน และอินเดียมาตั้งถิ่นฐานเพื่อทำการค้าขายในรัฐได้ แต่ขณะที่การค้าขายเจริญมากขึ้น ฐานะทางการปกครองของดูไบก็ยังคงเป็นแค่รัฐในอารักขาของอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งอยู่ในส่วนหนึ่งบนพื้นที่ทางตอนเหนือของชายฝั่งของคาบสมุทรอาหรับ ดังนั้นภายหลังจากที่อังกฤษได้ถอนตัวออกจากการปกครอง ในปี ค.ศ. 1971 ดูไบพร้อมด้วยอีกหลายรัฐ ได้ร่วมกันก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
และถัดจากนั้นในช่วงยุค 1980-1990 ดูไบได้ลงทุนสร้างสิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากมาย ทั้งนี้ เพื่อให้ดูไบเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยในปี ค.ศ. 2000 จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าในดูไบมีจำนวน 3 แสนคน[4]
ภูมิศาสตร์
[แก้]เมืองดูไบตั้งอยู่บนชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย ทางตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 16 เมตร รัฐดูไบติดต่อกับรัฐอาบูดาบีทางทิศใต้ ติดกับรัฐชัรญะฮ์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศโอมานทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีแผ่นดินส่วนแยกติดกับเมืองฮัตตา ซึ่งมีประเทศโอมานและรัฐอื่น ๆ ได้แก่ รัฐอัจญ์มาน (ทิศตะวันตก) รัฐเราะซุลคัยมะฮ์ (ทิศเหนือ) และอ่าวเปอร์เซียทางทิศตะวันตก ดูไบตั้งอยู่ที่ 25°16′11″N 55°18′34″E / 25.2697°N 55.3095°E และมีพื้นที่ครอบคลุม 4,114 ตารางกิโลเมตร (1,588 ตารางไมล์) ดูไบตั้งอยู่ภายในทะเลทรายอาหรับ อย่างไรก็ตาม ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดูไบก็แตกต่างจากส่วนอื่น ๆ ทางใต้ของประเทศ เนื่องจากมีภูมิทัศน์เป็นทะเลทรายสวยงามมีลวดลาย ในขณะที่ทางตอนใต้ของประเทศเป็นทะเลทรายกรวด[5] ทรายประกอบด้วยเศษเปลือกหอย และเศษปะการัง สีขาวเรียบเนียน ทางตะวันออกของเมืองมีพื้นที่ราบเกลือ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ซับกาห์ (sabkha) ทอดจากทางเหนือไปใต้ตามสันทราย ไกลออกไปอีกทางตะวันออกมีสันทรายที่ใหญ่ขึ้นและมีสีแดงประกอบด้วยสารเหล็กออกไซด์[6] ทะเลทรายก็ยังแผ่ออกไปยังภูเขาฮาจาร์ตะวันตก ซึ่งมีความยาวไปตามอาณาเขตของดูไบ โอมานและเมืองฮัตตา แนวเขาฮาจาร์ตะวันตกจะมีอากาศแห้ง พื้นผิวขรุขระ ซึ่งภูเขาบางลูกมีความสูงประมาณ 1,300 เมตร ดูไบไม่มีแม่น้ำหรือโอเอซิสตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ดูไบก็ยังมีคลองดูไบ ขุดลอกโดยเรือ ซึ่งลึกพอที่เรือขนาดใหญ่จะสามารถแล่นผ่านได้ตลอดเส้นทาง ดูไบมีหุบเขาและบ่อน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ประปรายแถวภูเขาฮาจาร์ตะวันตก ส่วนทะเลทรายกว้างใหญ่ปกคลุมทางตอนใต้ของดูไบ และใต้ลงไปอีกก็จะเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่เรียกว่า ดิเอ็มทีควาร์เตอร์ (The Empty Quarter) ส่วนด้านวิทยาแผ่นดินไหว มีรอยเลื่อนที่ใกล้ที่สุดชื่อ รอยเลื่อนซาร์กอส (Zargos Fault) ตั้งอยู่ห่าง 120 กิโลเมตรจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอัตราการเกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนนั้นในดูไบมีความเสี่ยงไม่สูง[7] และผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิในพื้นที่ เพราะอ่าวเปอร์เซียมีความลึกไม่มากพอที่จะทำให้เกิดคลื่นขึ้นได้[7]
ทะเลทรายที่ล้อมรอบดูไบมีหญ้าป่าและมีต้นอินทผลัมซาอุ (date palm) ขึ้นอยู่บ้าง มีต้นไฮยาซินธ์มากในบริเวณที่ราบซับกาห์ทางตะวันออกของเมือง มีต้นอาเคเชียและต้นกาห์ฟ (ghaf) ขึ้นในบริเวณภูเขาฮาจาร์ตะวันตก ส่วนพืชพื้นเมืองอื่น ๆ เช่น อินทผลัมซาอุ และสะเดา ส่วนสัตว์พื้นเมืองของดูไบมักอาศัยอยู่ในทะเลทราย เช่น นกบัสตาร์ด ไฮยีนา คาราคัล สุนัขจิ้งจอกทะเลทราย เหยี่ยว และ โอริกซ์อาระเบีย ดูไบยังเป็นสถานที่แห่งหนึ่งของสัตว์อพยพจากทางยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเมื่อถึงฤดูหนาว ซึ่งในจำนวนนี้มีนกมากกว่า 320 สายพันธุ์ และดูไบยังมีแหล่งน้ำที่มีปลาอาศัยอยู่กว่า 300 สายพันธุ์ เช่น ปลาตุ๊กแก (hammour)
คลองดูไบ ทอดตัวผ่านเมืองจากทางตะวันออกเฉียงเหนือสู่ตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนตะวันออกของเมืองพัฒนามาจากเดียร่า มีรัฐชัรญะฮ์ติดต่อทางตะวันออกและเมืองอัลอเวียร์ติดทางทิศใต้ ดูไบมีท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเดียร่า ในขณะที่มีปาล์มเดียร่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเดียร่าในอ่าวเปอร์เซีย อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จำนวนมากก่อสร้างขึ้นรวมเป็นกลุ่มทางตะวันตกของคลองดูไบบนแถบชายหาดจูเมร่าห์ ซึ่งท่าเรือราชิด ท่าเรือเจเบลอาลี บูร์จอัลอาหรับ เกาะปาล์มจูเมร่าห์ และสถานที่อื่น ๆ เช่นบิสสิเนสเบย์ ก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน มีถนนหลัก 5 สายที่ผ่านดูไบ ได้แก่ ถนน E 11 (ถนนชิค ซาเยด), E 311 (ถนนเอมิเรตส์), E 44 (ทางหลวงดูไบ-ฮัตตา), E 77 (ถนนดูไบ-อัลฮาบับ) และ E 66 (ถนนอัดเมตา) เชื่อมโยงเมืองดูไบกับเมืองอื่นๆ และเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสำคัญเชื่อมโยงสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมือง เช่น D 89 (ถนนอัลมักทัม), D 85 (ถนนบานิยาส), D 75 (ถนนชิค ราชิด), D 73 (ถนนอัลดียาฟา), D 94 (ถนนจูเมราห์) และ D 92 (ถนนคาลีจ) ส่วนทางตะวันออกและตะวันตกของเมืองเชื่อมโดยสะพานอัลมักทัม สะพานอัลการ์ฮัด อุโมงค์อัลชินดากาห์ ทางตัดบิสสิเนสเบย์ และ สะพานโฟลททิง
ภูมิอากาศ
[แก้]ดูไบเป็นเมืองที่มีอากาศแห้งแล้ง ในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิสูงมาก ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 42 องศาเซลเซียส และตอนกลางคืนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส และตอนกลางคืนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงที่สุดที่เคยวัดได้ในดูไบคือ 47.3 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดที่เคยวัดได้คือ 7 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนมีค่อนข้างน้อย ประมาณ 150 มิลลิเมตร (6 นิ้ว) ต่อปี ซึ่งจะมีมากในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม อย่างไรก็ตาม ฝนตกหนักที่สุดเคยเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 มีปริมาณน้ำฝนถึง 150.2 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง[8] ปริมาณความชื้นในดูไบมีค่าประมาณ 60% และจะสูงกว่านี้ในช่วงเดือนที่มีอากาศเย็น
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | ม.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ย °C (°F) | 24.0 (75) | 25.4 (78) | 28.2 (83) | 32.9 (91) | 37.6 (100) | 39.5 (103) | 40.8 (105) | 41.3 (106) | 38.9 (102) | 35.4 (96) | 30.5 (87) | 26.2 (79) | |
อุณหภูมิต่ำสุดโดยเฉลี่ย °C (°F) | 14.3 (58) | 15.4 (60) | 17.6 (64) | 20.8 (69) | 24.6 (76) | 27.2 (81) | 29.9 (86) | 30.2 (86) | 27.5 (82) | 23.9 (75) | 19.9 (68) | 16.3 (61) | |
หยาดน้ำฟ้า มม. (นิ้ว) | 15.6 (0.61) | 25.0 (0.98) | 21.0 (0.83) | 7.0 (0.28) | 0.4 (0.02) | 0.0 (0) | 0.8 (0.03) | 0.0 (0) | 0.0 (0) | 1.2 (0.05) | 2.7 (0.11) | 14.9 (0.59) | |
แหล่ง: Dubai Meteorological Office[9] 2008 |
เมืองพี่น้อง
[แก้]ดูไบมีเมืองพี่น้องทั้งหมด 31 แห่ง ส่วนใหญ่จะมีการทำข้อตกลงหลังปี ค.ศ. 2002[10]
สถานที่ท่องเที่ยว
[แก้]- หมู่เกาะต้นปาล์ม
- ตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์
- ตึกบูร์จอัลอาหรับ
- พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ใต้น้ำดูไบ
- สวนน้ำแอตแลนติส อควาเวนเจอร์
- ศูนย์การค้า เดอะ ดูไบ มอลล์
- โรงละครศิลปะดิจิทัลดูไบ
- สวนมิราเคิล การ์เดน
- ตึกดูไบเฟรม
- สวนสนุกไอเอ็มจี เวิลด์ ออฟ แอดเวนเจอร์
- Global Village
- พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต
- Sky View Observator
ดูเพิ่ม
[แก้]เชิงอรรถ
[แก้]- A. ^ พื้นที่ของรัฐดูไบทั้งหมด โดยรวมทั้งเกาะที่สร้างขึ้นมา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ UAE Constitution เก็บถาวร 2019-04-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, จาก Helplinelaw.com, สืบค้นวันที่ 21 ก.ค. 2551 (อังกฤษ)
- ↑ "Dubai: Profile of geographical entity including name variants. World Gazetteer.
- ↑ "Dubai Metropolitan Statistical Area". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-24. สืบค้นเมื่อ 2009-04-07.
- ↑ ดูไบ เมืองแห่งความมหัศจรรย์, จากกระปุกดอตคอม, สืบค้นวันที่ 2 ส.ค. 2552
- ↑ Environmental Development and Protection in the UAE เก็บถาวร 2016-12-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Aspinall, Simon
- ↑ "Historic population statistics" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-03-26. สืบค้นเมื่อ 2009-07-31.
- ↑ 7.0 7.1 Earthquake risk in Dubai 'lower เก็บถาวร 2010-02-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนthan that of London']. UAEInteract.com
- ↑ Dubai Meteorological Office เก็บถาวร 2007-05-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, จาก Dubaiairport.com, สืบค้นวันที่ 2 ส.ค. 2552 (อังกฤษ)
- ↑ "Climate". Dubai Meteorological Office. สืบค้นเมื่อ 2008-12-20.
- ↑ Twinning Cities Agreements เก็บถาวร 2013-05-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เว็บไซด์อย่างเป็นทางการ (UAE)
- ↑ UAEinteract.com. "Twinning agreement brings a taste of Spain to Dubai UAE - The Official Web Site - News". Uaeinteract.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-30. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
- ↑ "Barcelona internacional - Ciutats agermanades" (ภาษาสเปน). Ajuntament de Barcelona. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-27. สืบค้นเมื่อ 2009-07-13.
- ↑ UAEinteract.com. "Dubai, Granada discuss cooperation UAE - The Official Web Site - News". Uaeinteract.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-30. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
- ↑ UAEinteract.com. "Dubai partners with the U.S. city of Phoenix UAE - The Official Web Site - News". Uaeinteract.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-30. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
- ↑ UAEinteract.com. "Los Angeles cultural body takes Dubai as sister city UAE - The Official Web Site - News". Uaeinteract.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-30. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
- ↑ UAEinteract.com. "Dubai, Detroit ink sister-city accord UAE - The Official Web Site - News". Uaeinteract.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-26. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
- ↑ "Dynamic Busan - City Government - Sister Cities - Dubai". English.busan.go.kr. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
- ↑ แหล่งท่องเที่ยวดูไบ ปี 2023 https://www.gogodubai.net/20-places-to-visit-in-dubai/ เก็บถาวร 2023-06-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน