[go: up one dir, main page]

ข้ามไปเนื้อหา

โจเป๋า

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โจเป๋า (ฉือ เปา)
石苞
เสนาบดีมหาดไทย (司徒 ซือถู)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – 30 มีนาคม ค.ศ. 273
กษัตริย์สุมาเอี๋ยน
ขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 266 (266) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์สุมาเอี๋ยน
เสนาบดีกลาโหม (大司馬 ต้าซือหม่า)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 266 (266) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์สุมาเอี๋ยน
มหาขุนพลโจมตีภาคตะวันออก
(征東大將軍 เจิงตงต้าเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. 266 (266)
กษัตริย์โจฮวน
ขุนพลม้าทะยาน (驃騎將軍 เพี่ยวฉีเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. 266 (266)
กษัตริย์โจฮวน
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดค.ศ. 195[a]
อำเภอหนานผี มณฑลเหอเป่ย์
เสียชีวิต30 มีนาคม ค.ศ. 273[b]
บุตร
  • ฉือ เยฺว่ (石越)
  • ฉือ เฉียว (石喬)
  • ฉือ ถ่ง (石統)
  • ฉือ จฺวิ้น (石浚)
  • ฉือ จฺวิ้น (石儁)
  • ฉือ ฉง (石崇)
  • บุตรสาวอย่างน้อย 1 คน
อาชีพขุนพล, ขุนนาง
ชื่อรองจ้งหรง (仲容)
สมัญญานามอู่กง (武公)
บรรดาศักดิ์เล่อหลิงจฺวิ้นกง (樂陵郡公)

โจเป๋า[1][2][3] (ค.ศ. 195[a] - 30 มีนาคม ค.ศ. 273[b]) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า ฉือ เปา (จีน: 石苞; พินอิน: Shí Bāo) ชื่อรอง จ้งหรง (จีน: 仲容; พินอิน: Zhòngróng) เป็นขุนพลของรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน ภายหลังเป็นขุนพลและขุนนางของราชวงศ์จิ้นตะวันตก มีตำแหน่งสูงสุดเป็นเสนาบดีมหาดไทย (司徒 ซือถู) ในยุคราชวงศ์จิ้นตะวันตก

ประวัติช่วงต้น

[แก้]

โจเป๋าเป็นชาวอำเภอลำพี้ (南皮縣 หนานผีเซี่ยน) เมืองปุดไฮ (渤海郡 ปั๋วไห่จฺวิ้น) ซึ่งปัจจุบันคืออำเภอหนานผี มณฑลเหอเป่ย์[7] โจเป๋ารับราชการเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยในอำเภอลำพี้อันเป็นบ้านเกิด โดยอยู่ในสังกัดของนายกองพันการเกษตร (典農司馬 เตี่ยนหนงซือหม่า)[8]

ในปี ค.ศ. 218 หลังการก่อกบฏของเกียดเป๋ง กัว เสฺวียนซิ่น (郭玄信) ผู้เป็นราชทูต (謁者 เย่เจ่อ) ขอให้นายกองพันการเกษตรหาคนมาเป็นข้าราชบริพารของจักรพรรดิ นายกองพันการเกษตรจึงเลือกเตงงายและโจเป๋า[c] ทั้งสองติดตามกัว เสฺวียนซิ่นไปยังเงียบกุ๋น ตลอดทางเตงงายและโจเป๋าได้สนทนากับกัว เสฺวียนซิ่น ทั้งคู่ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากกัว เสฺวียนซิ่น[9] หลังมาถึงเงียบกุ๋น เรื่องการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางยังไม่ได้ข้อสรุป โจเป๋าจึงขายเหล็กในเงียบกุ๋นเพื่อเลี้ยงชีพ[10] เจ้า ยฺเหวียนหรู (趙元儒) หัวหน้าตลาด (市長 ชื่อจ่าง) ในเงียบกุ๋นมีชื่อเสียงในเรื่องการดูลักษณะบุคคล เมื่อเห็นโจเป๋าก็ชื่นชมเป็นอย่างมากแล้วผูกมิตรกับโจเป๋า[11]

การรับราชการกับวุยก๊ก

[แก้]

ในช่วงศักราชชิงหลง (青龍; ค.ศ. 233-237) ในรัชสมัยจักรพรรดิโจยอยแห่งรัฐวุยก๊ก โจเป๋ามาขายเหล็กที่เตียงอั๋น (長安 ฉางอาน) และได้พบกับสุมาอี้ สุมาอี้ชื่นชมโจเป๋าอย่างมากจึงตั้งโจเป๋าให้เป็นเจ้าพนักงานสำนักราชเลขาธิการ (尚書郎 ช่างชูหลาง)[12] ต่อมาโจเป๋าได้ดำรงตำแหน่งนายกองพัน (司馬 ซือหม่า) ในสังกัดของสุมาสูผู้เป็นผู้พิทักษ์ทัพกลาง (中護軍 จงฮู่จฺวิน) และบุตรชายคนโตของสุมาอี้[13] ต่อมาโจเป๋าได้ดำรงตำแหน่งขุนพลราชองครักษ์แห่งนิคมการเกษตร (典農中郎將 เตี่ยนหนงจงหลางเจี้ยง) ที่เงียบกุ๋น ในเวลานั้นอ๋อง (王 หวาง) ทุกพระองค์ในราชวงศ์ของวุยก๊กประทับอยู่ในเงียบกุ๋น และเตงปิดผู้เป็นราชเลขาธิการ (尚書 ช่างชู) เป็นผู้มีอำนาจมากโดยอาศัยการปกครองแบบเผด็จการของโจซอง แม้เวลานั้นเตงปิดและโจซองมีอำนาจมาก แต่โจเป๋าก็กล้าที่จะเขียนฎีการายงานราชสำนักเรื่องพฤติกรรมของทั้งสอง โจเป๋าจึงได้รับการยกย่องจากคนจำนวนมาก[14] ต่อมาโจเป๋าดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองตงไหล (東萊郡 ตงไหลจฺวิ้น) และเจ้าเมืองของเมืองลองเอี๋ยหรือลงเสีย (琅邪郡 หลางหยาจฺวิ้น) ตามลำดับ โจเป๋ามีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชมในทุกที่ที่ไปดำรงตำแหน่ง[15] ต่อมาย้ายไปเป็นข้าหลวงมณฑล (刺史 ชื่อฉื่อ) ของมณฑลชีจิ๋ว[16]

ในปี ค.ศ. 252 สุมาเจียวนำอ้าวจุ๋น จูกัดเอี๋ยน และคนอื่น ๆ เข้าโจมตีรัฐง่อก๊ก โจเป๋าได้ติดตามร่วมรบด้วย จูกัดเก๊กผู้เป็นราชครู (太傅 ไท่ฟู่) แห่งง่อก๊กนำทัพเข้าโจมตีทัพวุยก๊กและเอาชนะได้ในยุทธการที่ตังหิน กำลังทหารฝ่ายวุยก๊กแตกพ่าย ทหารถูกเหยียบย่ำหรือจมน้ำตายจำนวนมาก มีเพียงกองกำลังของโจเป๋าที่สามารถล่าถอยโดยไม่ได้รับความเสียหาย สุมาเจียวจึงชี้ไปที่ตราอาญาสิทธิ์ที่ตนถืออยู่แล้วพูดว่า "หวังว่าคงไม่ต้องมอบสิ่งนี้ให้ท่านเพื่อไปทำการใหญ่" ต่อมาไม่นานโจเป๋าได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนพลสำแดงยุทธ (奮武將軍 เฟิ่นอู่เจียงจฺวิน) ได้รับอาญาสิทธิ์ และได้รับหน้าที่ดูแลราชการทหารทั้งหมดในมณฑลเฉงจิ๋ว[17]

ในปี ค.ศ. 257 จูกัดเอี๋ยนก่อกบฏในฉิวฉุน (壽春 โช่วชุน; ปัจจุบันคืออำเภอโช่ว นครลู่อาน มณฑลอานฮุย) โจเป๋าได้รับคำสั่งให้นำกำลังทหารจากมณฑลเฉงจิ๋วร่วมกับกำลังทหารของจิวท่ายและเฮาจิดเพื่อสกัดกั้นกำลังเสริมจากง่อก๊กนอกฉิวฉุนที่ยกมาสนับสนุนการก่อกบฏ ในไม่ช้าง่อก๊กก็ส่งขุนพลจูอี้ เตงฮอง และคนอื่น ๆ ยกพลมาสนับสนุนจูกัดเอี๋ยน จูอี้ให้กองลำเลียงเสบียงประจำอยู่ที่ตูลู่ (都陸) และนำกำลังพลหลักไปตั้งมั่นที่หลีเจียง (黎漿) โจเป๋านำพลเข้าโจมตีกองกำลังของจูอี้จนแตกพ่าย ในช่วงเวลาเดียวนั้น เฮาเหลก (胡烈 หู เลี่ย) เจ้าเมืองไทสัน (泰山 ไท่ชาน) นำทหารบุกเข้าเผาทำลายเสบียงอาหารของจูอี้ที่ตูลู่จนสิ้น จูอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรวบรวมทหารที่เหลือล่าถอย ต่อมาซุนหลิมผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งง่อก๊กสั่งประหารชีวิตจูอี้ จูกัดเอี๋ยนที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกพยายามตีฝ่าวงล้อมของทัพวุยก๊กแต่ไม่สำเร็จ และในที่สุดก็ถูกปราบปรามจนราบคาบในปีถัดมา ภายหลังการฟื้นฟูฉิวฉุน โจเป๋าได้เลื่อนยศเป็นขุนพลพิทักษ์ภาคตะวันออก (鎮東將軍 เจิ้นตงเจียงจฺวิน) ได้รับบรรดาศักดิ์ตงกวางโหว (東光侯) และได้รับอาญาสิทธิ์[18]

ในปี ค.ศ. 259 โจเป๋ารับหน้าที่ดูแลราชการทหารทั้งหมดในมณฑลยังจิ๋วแทนที่อองกี๋[19]

ในปี ค.ศ. 260 เซียว เชิ่น (蕭慎) แม่ทัพเมืองจี๋หยาง (吉陽) ของรัฐง่อก๊กส่งหนังสือแสร้งยอมจำนนต่อโจเป๋า ขอให้โจเป๋ามาต้อนรับ แต่สุมาเจียวมองออกว่าเป็นกลลวง จึงให้โจเป๋าแสร้งทำเป็นต้อนรับและคอยจับตาระมัดระวังจากภายใน[20] ต่อมาโจเป๋าได้เลื่อนตำแหน่งเป็นมหาขุนพลโจมตีภาคตะวันออก (征東大將軍 เจิงตงต้าเจียงจฺวิน) และขุนพลม้าทะยาน (驃騎將軍 เพี่ยวฉีเจียงจฺวิน)[21]

ในปี ค.ศ. 265 สุมาเจียวเสียชีวิต สุมาเอี๋ยนบุตรชายสืบทอดฐานันดรศักดิ์จีนอ๋อง (晉王 จิ้นหวาง) โจเป๋าและขุนพลตันเกี๋ยนทูลโจฮวนจักรพรรดิแห่งวุยก๊กหลายครั้งว่ารัฐวุยก๊กถึงคราวสิ้นสุดแล้ว โน้มน้าวพระองค์ให้คล้อยตามลิขิตฟ้าและสละราชบัลลังก์[22]

การรับราชการกับราชวงศ์จิ้น

[แก้]

ในปี ค.ศ. 266 โจเป๋าเข้าร่วมในเหตุการณ์ที่สุมาเอี๋ยนบังคับโจฮวนจักรพรรดิแห่งวุยก๊กให้สละราชบัลลังก์ หลังสุมาเอี๋ยนขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิและก่อตั้งราชวงศ์จิ้นตะวันตก โจเป๋าได้รับการแต่งตั้งเป็นเสนาบดีกลาโหม (大司馬 ต้าซือหม่า) และขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) ได้รับบรรดาศักดิ์เล่อหลิงจฺวิ้นกง (樂陵郡公)[23]

ถูกสงสัยว่าจะก่อกบฏ

[แก้]

ตั้งแต่การปราบกบฏจูกัดเอี๋ยนในปี ค.ศ. 258 โจเป๋าได้รับมอบหมายให้ดูแลภูมิภาคห้วยหนำ (淮南 หฺวายหนาน) ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งโจเป๋าปฏิบัติราชการอย่างขยันหมั่นเพียร และใช้คุณธรรมทำให้ผู้คนนับถือ แต่หวาง เชิน (王琛) ผู้ควบคุมทัพ (監軍 เจียนจวิน) ของภูมิภาคหฺวายเป่ย์ (淮北) ดูถูกชาติกำเนิดของโจเป๋าว่าต่ำต้อย[24]

ในปี ค.ศ. 268 มีเพลงกล่อมเด็กในท้องถิ่นที่ร้องว่า "ม้า[d]ตัวใหญ่ในวังก็เหมือนลา ไม่อาจสบายภายใต้การกดทับของหิน[e]ก้อนใหญ่ได้" หวาง เชินจึงใช้เรื่องนี้ถวายฎีกาลับกล่าวหาว่าโจเป๋าทรยศราชวงศ์จิ้นและลอบติดตามกับง่อก๊ก หลังจากจักรพรรดิสุมาเอี๋ยนได้รับฎีกาลับ และก่อนหน้านี้มีหมอดูที่สังเกตเมฆมาทูลคำทำนายว่า "ทางใต้จะมีทหารยกขึ้นมา" สุมาเอี๋ยนจึงรู้สึกไม่สบายพระทัยอย่างมาก[25]

ในเวลานั้นซุนโฮจักรพรรดิแห่งง่อก๊กมีรับสั่งให้มหาขุนพลเตงงายและขุนพลจูกัดเจ้งยกทัพเข้าโจมตีหับป๋า (合肥 เหอเฝย์) เตงฮองเขียนจดหมายถึงโจเป๋าเพื่อจะส่งข่าวลวง เฮาเหลก (胡烈 หู เลี่ย) ข้าหลวงมณฑลเกงจิ๋วถวายรายงานแจ้งว่าง่อก๊กวางแผนจะบุกโจมตีครั้งใหญ่ โจเป๋าก็ได้ข่าวว่าง่อก๊กจะบุกโจมตี โจเป๋าจึงให้สร้างป้อมปราการกั้นแม่น้ำและเสริมการป้องกัน สุมาเอี๋ยนทรงทราบเรื่องที่โจเป๋าเสริมการป้องกันก็ยิ่งกังวล แม้ว่าเอียวเก๋าเชื่อมั่นว่าโจเป๋าไม่คิดวางแผนก่อกบฏ แต่สุมาเอี๋ยนก็ยังคงทรงรู้สึกไม่สบายพระทัย ประกอบกับเรื่องที่ฉือ เฉียว (石喬) บุตรชายของโจเป๋าถูกเรียกมาเข้าเฝ้าเป็นเวลาหลายวันแล้วแต่ก็ยังไม่มา สุมาเอี๋ยนจึงทรงเชื่อว่าโจเป๋าคิดก่อกบฏและวางแผนจะลอบโจมตี จึงทรงออกพระราชโองการที่ระบุว่าโจเป๋าไม่คำนึงถึงสถานการณ์และทำให้ราษฎรเดือดร้อน จึงให้ปลดโจเป๋าจากตำแหน่ง พระองค์ยังทรงส่งสุมาปองผู้เป็นอ๋องแห่งงีหยง (義陽王 อี้หยางหวาง) และเสนาบดีกลาโหม (太尉 ไท่เว่ย์) นำทัพใหญ่มุ่งไปโจมตีโจเป๋า และยังมีรับสั่งให้สุมาเตี้ยมผู้เป็นอ๋องแห่งลองเอี๋ย (琅邪王 หลางหยาหวาง) นำทหารจากแห้ฝือ (下邳 เซี่ยพี) ไปตั้งมั่นที่ฉิวฉุน ให้เตรียมใช้กำลังปราบปรามเมื่อโจเป๋าก่อกบฏขึ้น โจเป๋าทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจึงทำตามคำแนะนำของซุน ชั่ว (孫鑠) ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยการแยกออกมาจากกำลังทหารของตนและไปที่ตูถิง (都亭) เพื่อรอรับการลงโทษ สุมาเอี๋ยนจึงทรงไม่เตรียมการป้องกันการก่อกบฏของโจเป๋าอีก ภายหลังโจเป๋ากลับมาที่พระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าสุมาเอี๋ยนแล้วจึงกลับไปบ้าน จนถึงเวลานี้โจเป๋าไม่ได้โกรธสุมาเอี๋ยนที่ไม่ทรงไว้วางพระทัยตน แต่โจเป๋ากลับรู้สึกละอายใจที่ตนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ดีได้[26]

หลังโจเป๋าถูกปลดจากตำแหน่ง กัว อี้ (郭廙) ถวายฎีการ้องเรียนเรื่องความอยุติธรรมที่โจเป๋าได้รับ โดยเห็นว่าราชสำนักควรเลื่อนตำแหน่งให้โจเป๋าเป็นเสนาบดีมหาดไทย (司徒 ซือถู) สุมาเอี๋ยนทรงยอมรับคำร้องและแต่งตั้งให้โจเป๋าเป็นเสนาบดีมหาดไทย[27] โจเป๋ามีความจงรักภักดีและปฏิบัติราชการอย่างขยันหมั่นเพียร สุมาเอี๋ยนทรงไว้วางพระทัยโจเป๋าอย่างมาก[28]

เสียชีวิต

[แก้]

โจเป๋าเสียชีวิตในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 273[b] จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงให้จัดพิธีไว้ทุกข์ในท้องพระโรง พระราชทานเงิน ผ้าไหม และของใช้ในงานศพ พระองค์ยังให้นำโลงศพของโจเป๋าขึ้นรถม้าออกไปทางประตูเล็กด้านตะวันออกของพระราชวัง และพระราชทานสมัญญานามแก่โจเป๋าว่า "อู่กง" (武公)[29]

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. 1.0 1.1 ชื่อ-ยฺหวี่ (世語) ของกัว ปาน (郭颁) ระบุว่าโจเป๋าและเตงงายมีอายุเท่ากัน[4] จึงอนุมานได้ว่าปีเกิดของโจเป๋าเป็นปีเดียวกันกับปีเกิดของเตงงายคือ ค.ศ. 195
  2. 2.0 2.1 2.2 บทชีวประวัติโจเป๋าในจิ้นชูระบุว่าโจเป๋าเสียชีวิตในศักราชไท่ฉื่อ (泰始) ปีที่ 8 (ค.ศ. 272) แต่บทพระราชประวัติสุมาเอี๋ยน (จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้) ในจิ้นชูและในจือจื้อทงเจี้ยนระบุว่าโจเป๋าเสียชีวิตในวันกุ่ยซื่อ (癸巳) ในเดือน 2 ของศักราชไท่ฉื่อปีที่ 9[5][6] วันที่นี้เทียบได้กับวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 273 ในปฏิทินกริกอเรียน
  3. ชื่อ-ยฺหวี่ (世語) ของกัว ปาน (郭颁) ระบุว่าโจเป๋าและเตงงายมีอายุเท่ากัน[4]
  4. คำว่า "ม้า" ในภาษาจีนเรียกว่า "หม่า" (馬) คำว่า "หม่า" ยังปรากฏในชื่อสกุลสุมา (司馬 ซือหม่า) ซึ่งเป็นชื่อสกุลของราชวงศ์จิ้น
  5. คำว่า "หิน" ในภาษาจีนเรียกว่า "ฉือ" (石) คำว่า "ฉือ" ยังเป็นชื่อสกุลของโจเป๋า (石苞 ฉือ เปา) ด้วย

อ้างอิง

[แก้]
  1. ("พระเจ้าโจมอขัดมิได้ก็รับว่าจะไป จึงมีตรารับสั่งให้เกณฑ์กองทัพในเมืองหลวงทั้งสองเมืองได้ยี่สิบหกหมื่น ตั้งอองกี๋เปนทัพหน้า ตังเขียนเปนปลัดทัพหน้า โจเป๋าเปนปีกขวา จิวท่ายเจ้าเมืองกุนจิ๋วเปนปีกซ้าย") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๒". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 15, 2024.
  2. ("สุมาเจียวเห็นชอบด้วย ก็สั่งให้โจเป๋าจิวท่ายคุมทหารเปนสองกองไปซุ่มอยู่ต้นทางเมืองโจเทาเสีย ให้อองกี๋กับตังเขียนคุมทหารไปซุ่มอยู่ปลายทางนั้น") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๒". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 15, 2024.
  3. ("ทหารจูกัดเอี๋ยนเห็นสิ่งของตกเรี่ยราย ต่างคนก็เก็บสิ่งของโคแลม้าหาได้ระวังตัวไม่ พอได้ยินเสียงพลุแลประทัดจุดขึ้น แลไปก็เห็นโจเป๋ากับจิวท่ายคุมทหารสองกองตีบุกรุกเข้ามา") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๒". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 15, 2024.
  4. 4.0 4.1 (鄧艾少為襄城典農部民,與石苞皆年十二三。) อรรถาธิบายจากชื่อ-ยฺหวี่ในสามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  5. [(泰始九年)二月癸巳,司徒、樂陵公石苞薨。] จิ้นชู เล่มที่ 3
  6. (二月,癸巳,樂陵武公石苞卒。) จือจื้อทงเจี้ยน เล่มที่ 81
  7. (石苞,字仲容,渤海南皮人也。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  8. (縣召爲吏,給農司馬。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  9. (會謁者陽翟郭玄信奉使,求人爲禦,司馬以苞及鄧艾給之。行十餘里,玄信謂二人曰:「子後並當至卿相。」苞曰:「禦隸也,何卿相乎?」) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  10. (既而又被使到鄴,事久不決,乃販鐵於鄴市。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  11. (市長沛國趙元儒名知人,見苞,異之,因與結交。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  12. (初,青龍中,石苞鬻鐵於長安,得見司馬宣王,宣王知焉。後擢為尚書郎,歷青州刺史、鎮東將軍。甘露中入朝,當還,辭高貴鄉公,留中盡日。文王遣人要令過。文王問苞:"何淹留也?"苞曰:"非常人也。"明日發至滎陽,數日而難作。) อรรถาธิบายจากชื่อ-ยฺหวี่ในสามก๊กจี่เล่มที่ 4.
  13. (稍遷景帝中護軍司馬。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  14. (徙鄴典農中郎將。時魏世王侯多居鄴下,尚書丁謐貴傾一時,並較時利。苞奏列其事,由是益見稱。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  15. (曆東萊、琅邪太守,所在皆有威惠。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  16. (遷徐州刺史。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  17. (文帝之敗於東關也,苞獨全軍而退。帝指所持節謂苞曰:「恨不以此授卿,以究大事。」乃遷苞爲奮武將軍、假節、監青州諸軍事。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  18. (及諸葛誕舉兵淮南,苞統青州諸軍,督兗州刺史州泰、徐州刺史胡質,簡銳卒爲遊軍,以備外寇。呉遣大將朱異、丁奉等來迎,誕等留輜重於都陸,輕兵渡黎水。苞等逆擊,大破之。泰山太守胡烈以奇兵詭道襲都陸,盡焚其委輸。異等收餘眾而退,壽春平。拜苞鎮東將軍,封東光侯、假節。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  19. (頃之,代王基都督揚州諸軍事。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  20. (冬十一月,吳吉陽督蕭慎以書詣鎮東將軍石苞偽降,求迎。帝知其詐也,使苞外示迎之,而內為之備。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  21. (後進位征東大將軍,俄遷驃騎將軍。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  22. ((石苞)後每與陳騫諷魏帝以歷數已終,天命有在。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  23. (及禪位,苞有力焉。武帝踐阼,遷大司馬,進封樂陵郡公,加侍中,羽葆鼓吹。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  24. (自諸葛破滅,苞便鎮撫淮南,士馬強盛,邊境多務,苞既勤庶事,又以威德服物。淮北監軍王琛輕苞素微) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  25. (又聞童謠曰:「宮中大馬幾作驢,大石壓之不得舒。」因是密表苞與呉人交通。先時望氣者云「東南有大兵起」。及琛表至,武帝甚疑之。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  26. (會荊州刺史胡烈表呉人欲大出爲寇,苞亦聞呉師將入,乃築壘遏水以自固。帝聞之,謂羊祜曰:「呉人每來,常東西相應,無緣偏爾,豈石苞果有不順乎?」祜深明之,而帝猶疑焉。會苞子喬爲尚書郎,上召之,經日不至。帝謂爲必叛,欲討苞而隱其事。遂下詔以苞不料賊勢,築壘遏水,勞擾百姓,策免其官。遣太尉義陽王望率大軍征之,以備非常。又敕鎮東將軍、琅邪王伷自下邳會壽春。苞用掾孫鑠計,放兵歩出,住都亭待罪。帝聞之,意解。及苞詣闕,以公還第。苞自恥受任無效而無怨色。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  27. (時鄴奚官督郭暠上書理苞。帝詔曰:「前大司馬苞忠允清亮,才經世務,幹用之績,所曆可紀。宜掌教典,以贊時政。其以苞爲司徒。」) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  28. (苞在位稱爲忠勤,帝每委任焉。) จิ้นชู เล่มที่ 33.
  29. (泰始八年薨。帝發哀於朝堂,賜秘器,朝服一具,衣一襲,錢三十萬,布百匹。及葬,給節、幢、麾、曲蓋、追鋒車、鼓吹、介士、大車,皆如魏司空陳泰故事。車駕臨送於東掖門外。策諡曰武。) จิ้นชู เล่มที่ 33.

บรรณานุกรม

[แก้]