วีซา

Visa Inc.
	สำนักงานใหญ่ เมโทรเซ็นเตอร์ ฟอสเตอร์ซิตี แคลิฟอร์เนีย
ประเภท	มหาชน
การซื้อขาย	คลาส A: เอ็นวายเอสอี: V; ดาวโจนส์ component; เอสแอนด์พี 100 component; เอสแอนด์พี 500 component; คลาส B: ไม่ได้ระบุ; คลาส C: ไม่ได้ระบุ;
ISIN	US92826C8394
อุตสาหกรรม	การเงิน
ก่อตั้ง	18 กันยายน 1958; 66 ปีก่อน (แบงก์อเมริกาการ์ด); เฟรสโน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
ผู้ก่อตั้ง	ดี ฮ็อค
สำนักงานใหญ่	ฟอสเตอร์ซิตี แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐ
พื้นที่ให้บริการ	ทั่วโลก
บุคลากรหลัก	อัลเฟรด เอฟ. เคลลี จูเนียร์ (ซีอีโอ)
ผลิตภัณฑ์	บัตรเครดิต; ระบบการชำระเงิน
รายได้	24.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2021)
รายได้จากการดำเนินงาน	15.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2021)
รายได้สุทธิ	12.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2021)
สินทรัพย์	82.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2021)
ส่วนของผู้ถือหุ้น	37.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2021)
พนักงาน	21,500 (2021)
เว็บไซต์	visa.com

วีซา (อังกฤษ: Visa, /ˈviːzə, ˈviːsə/; หรือรูปแบบว่า VISA) เป็นบริษัทข้ามชาติให้บริการด้านการเงินสัญชาติอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองฟอสเตอร์ซิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยการชำระเงินด้วยวิธีการโอนเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ETF) ภายใต้แบรนด์ของวีซา อย่างบัตรเครดิต บัตรของขวัญ และบัตรเดบิต^[4] วิซาไม่ได้เป็นผู้ออกบัตร เสนอให้ใช้บัตร หรือกำหนดราคาหรือค่าธรรมเนียมกับผู้ใช้บัตร แต่วีซาให้สถาบันทางการเงินที่ใช้ตราสัญลักษณ์วีซาเป็นผู้จ่ายกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน และบริการเงินสด ในปี ค.ศ. 2015 รายงานนิลสันรายงานว่า ในอุตสาหกรรมบัตรเครดิต วีซาเน็ต (VisaNet) ได้มีการดำเนินธุรกกรรม 100 พันล้านครั้งในระหว่างปี 2014 ด้วยจำนวนเงิน 6.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

วีซาดำเนินกิจการในทุกส่วนของโลก (เว้นแอนตาร์กติกา) การดำเนินธุรกรรมแทบทั้งหมดผ่านวีซาเน็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่อำนวยความสะดวกด้านหลักประกัน ศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ที่แอชเบิร์น รัฐเวอร์จิเนีย, ไฮแลนส์แรนช์ รัฐโคโลราโด, ลอนดอน และสิงคโปร์^[5]

วีซาเป็นองค์กรบัตรชำระเงิน (รวมบัตรเดบิตและบัตรเครดิต) ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากไชนายูเนียนเพย์ที่แซงไปในปี 2015 โดยดูจากจำนวนการใช้เงินประจำปีและจำนวนบัตรที่ออก^[6] เหตุเพราะด้วยยูเนียนเพย์มีการใช้งานในตลาดจีนจำนวนมาก ส่วนวีซามีการใช้มากกว่าในส่วนที่เหลือของโลก เว้นแต่จีน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดการใช้บัตรทั่วโลกร้อยละ 50 ไม่รวมจีน^[6]

อ้างอิง

↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Stearns_Page1
↑ Leuty, Ron (September 13, 2012). "Visa moving headquarters from San Francisco to Foster City". San Francisco Business Times. สืบค้นเมื่อ February 27, 2013. [Visa] said Thursday that it is closing its headquarters in San Francisco and moving about 100 employees back to its Foster City campus, effective Oct. 1. [...] The bulk of the company's employees—3,100 of more than 7,700 worldwide... are in Foster City.
↑ ^3.0 ^3.1 ^3.2 ^3.3 ^3.4 ^3.5 "2021 Income Statement, Visa Inc" (PDF). สืบค้นเมื่อ Oct 26, 2021.
↑ Visa เก็บถาวร 2009-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved March 26, 2010.
↑ "Map and List of VisaNet's Data Centers". Baxtel.
↑ ^6.0 ^6.1 "UnionPay takes top spot from Visa in $22 trillion global cards market – RBR". Finextra. London: Finextra Research Limited. 22 July 2016.

[Stearns_Page1-1] อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Stearns_Page1

[fosterHQ-2] Leuty, Ron (September 13, 2012). "Visa moving headquarters from San Francisco to Foster City". San Francisco Business Times. สืบค้นเมื่อ February 27, 2013. [Visa] said Thursday that it is closing its headquarters in San Francisco and moving about 100 employees back to its Foster City campus, effective Oct. 1. [...] The bulk of the company's employees—3,100 of more than 7,700 worldwide... are in Foster City.

[10K-3] 3.0 ^3.1 ^3.2 ^3.3 ^3.4 ^3.5 "2021 Income Statement, Visa Inc" (PDF). สืบค้นเมื่อ Oct 26, 2021.

[4] Visa เก็บถาวร 2009-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved March 26, 2010.

[5] "Map and List of VisaNet's Data Centers". Baxtel.

[Finextra-6] 6.0 ^6.1 "UnionPay takes top spot from Visa in $22 trillion global cards market – RBR". Finextra. London: Finextra Research Limited. 22 July 2016.

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

[6]