เวลา 17.11 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม ซึ่งสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ภายหลังจากขุดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นคูพระนครชั้นนอกและให้มีวัดเรียงรายอยู่ตามชายคลองเหมือนกับกรุงศรีอยุธยา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างวัดมกุฎกษัตริยารามขึ้นเมื่อปี 2411 โดยวัดแห่งนี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะ คือ เป็นวัดในเขตกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีเสมา 2 ชั้น ชั้นแรกเรียกว่า มหาสีมา อยู่ในซุ้มที่มุมกำแพงรอบวัด และยังมีเสมารอบพระอุโบสถอีกชั้นเรียกว่า ขัณฑสีมา ซึ่งพระสงฆ์สามารถประชุมทำสังฆกรรมได้ทั้งพระอุโบสถและพระวิหาร สำหรับพระวิหาร พระอุโบสถ รวมถึงหน้าบันและด้านบนของซุ้มประตูหน้าต่างจะมีลายพระมหามงกุฏอันเป็นตราประจำรัชกาลที่ 4 และผนังด้านในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมหลากหลายแตกต่างจากวัดอื่น เช่น เรื่องพระสาวกในบาลีและอรรถกถา พระอัครสาวก 11 พระองค์ อัครสาวิกา 8 องค์ ภาพการบำเพ็ญกรรมฐาน สิ่งที่พึงปฏิบัติเนื่องด้วยธรรมวินัย ธุดงควัตร บนบานหน้าต่างและบานประตูด้านในเขียนพระสูตรที่เป็นคาถาด้วยตัวอักษรบรรจง ปัจจุบัน วัดมกุฎกษัตริยาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร มีพระเทพวชิรเมธาจารย์ เป็นเจ้าอาวาสวัด มีพระสงฆ์จำพรรษา 55 รูป และสามเณร 33 รูป
ภายหลังจากทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินแล้วเสร็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินไปยังที่ประดิษฐานพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงวางพวงมาลัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช
เวลา 17.52 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังพระอุโบสถ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน เป็นวัดที่ 2
วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมเป็น "สวนกาแฟ" หรือ พื้นที่ทดลองปลูกกาแฟแห่งแรกของประเทศไทย โดยเป็นพระอารามหลวงประจำรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดซื้อที่ดิน ทรงวางแผนการก่อสร้าง และทรงกำหนดงานศิลปกรรมในวัดฯ ด้วยพระองค์เอง มี "พระพุทธสิหังคปฏิมากร" เป็นพระประธานประจำพระวิหารหลวง ด้านหน้าบุษบกเหนือรัตนบัลลังก์ เป็นที่ประดิษฐานพระนิรันตราย ที่มีความหมายว่า "ปราศจากอันตราย"
ภายในพระวิหารหลวง มีงานจิตรกรรมฝาผนังภาพเทพชุมนุมในหมู่เมฆสีฟ้า, พระราชพิธีสิบสองเดือน และภาพจำลองเหตุการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคาในพระบรมมหาราชวัง โดยหลังบานประตูและหน้าต่างมีงานประดับมุกชั้นสูงของญี่ปุ่น ยุคเมจิ จากเมืองนางาซากิ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน วัดได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์บานไม้ประดับมุกญี่ปุ่น โดยร่วมกับสถาบันวิจัยมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติ กรุงโตเกียว เพื่อทำการวิจัยและหาวิธีซ่อมแซมที่ถูกต้อง เพื่อสืบสานสายใยความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศผ่านการอนุรักษ์งานศิลปกรรม โดยในปี 2567 วัดฯ มีแผนดำเนินโครงการจัดสร้างเขตสังฆาวาสเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ทิม อุฑาฒิโม) เจ้าอาวาสรูปที่ 4 เนื่องในโอกาสครบ 10 รอบนักษัตร (120 ปี) ชาตกาล วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ด้วย
โอกาสนี้ เจ้าอาวาสวัดฯ ถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้น เสด็จออกจากพระอุโบสถไปยังปราสาทประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปฯ